ตะวันช่วยให้ร้อนหนาว ใช่เพราะมันเคลื่อนที่มาหาเรา แต่เพราะโลกต่างหากที่นำพาพวกเราไปหามันให้ร้อนรุ่ม-เหน็บหนาว ไม่ต่างกับทุกข์สุขที่เวียนวน ล้วนเกิดจากจิตใจที่พาเราเข้าหาทุกข์ในทุกวัน
จิตใจที่กล้าแกร่ง ช่วยให้เข้าใจทุกข์สุข ซึ่งเข้ามาและจะผ่านพ้นไป เฉกเช่นฟ้าใหม่ที่มีให้เผชิญทุกวัน ไม่เช่นนั้น ท่านคงไม่ยืนยงมาได้อ่านข้อความนี้ในวันนี้
12 มิถุนายน 2564
เมื่อประสบทุกข์ สิ่งรอบตัวหลากหลาย (ยกเว้นตัวเอง) กลายเป็นผู้ถูกกล่าวโทษ เป็นแพะรับเคราะห์
13 มิถุนายน 2564
สร้างภาพ เพราะหิวแสง ได้แสดง เพราะแสงส่ง
ไร้แสง ก็บอดลง ไม่มีตนปรากฏกาย
แสงสร้างให้เห็นขนาด วัตถุวาด สีหลากหลาย
สรรพสิ่ง เห็นรอบกาย แสงส่งให้ มองหลายมุม
15 มิถุนายน 2564
การเข้าถึง เข้าใจเจตนารมณ์ผู้อื่นและสรรพสิ่ง เป็นความสำคัญสูงสุดต่อปฏิสัมพันธ์ ที่ช่วยให้เรามีความคิด มีการแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการบริหารจัดการ (ไม่หลงประเด็น) และเป็นตัวกำหนดชะตากรรมที่ดีของเราในอนาคต
19 มิถุนายน 2564
คุ้นชินคำสื่อสาร งานบุญ
ทุกที่คนหวังบุญ มีพลาด
อยากมีบุญแต่กรุ่น อุดมโลภ โกรธหลง
เห็นแต่ตนพาพลาด ชาวพุทธ พึงตรอง
ประกาศนี้อาจพาให้ สิ้นบุญ
เจ้าภาพไม่เกื้อหนุน ชาวโลก
ไม่สร้างกุศลจิตกูล ก่อเกื้อ ตามควร
หลวงปู่ชาแนะเรา อย่าได้ หมดบุญ
13 พฤศจิกายน 2566มากมายหน่วยงานเรา มาตรฐาน
ทั่วโลกมีกล่าวขาน ยกย่อง
พาประชาเราหน้าบาน เป็นปลื้ม ยิ้มแฉ่ง
เสียดายหน่วยนอกข้อง ทำเสีย ครรลอง
❤️ โรงหมอหนึ่ง รักษาคนป่วยวันเดียวหาย ไม่กลับมาอีกเลย
💔 อีกโรงหมอหนึ่ง รักษาหลายเดือนแล้ว อาการยังคงรักษายาก
* รู้แล้วไม่ต้องกินหญ้า
19 พฤศจิกายน 2566
เศรษฐีคนหนึ่ง ได้รับคำแนะนำให้หาอาจารย์ฮวงจุ้ย มาดูบ้านพักที่สร้างใหม่ของเขา เดิมทีเศรษฐี ก็ไม่เชื่อเรื่องเหล่านี้มากนัก แต่เพื่อความสบายใจ จึงเชิญอาจารย์ฮวงจุ้ย ผู้มีประสบการณ์กว่า 30 ปี และมีชื่อเสียงมาก
ท่านเศรษฐี ขับรถพาอาจารย์ไปยังบ้านของตน ระหว่างเดินทาง อาจารย์ฮวงจุ้ยสังเกตว่า ถ้ามีรถพยายามจะแซง ท่านก็จะหลีกทางให้เสมอ
อาจารย์พูดว่า “คุณขับรถได้มั่นคง นุ่มนวลดี”
เศรษฐีหัวเราะ แล้วพูดว่า “ผู้ที่ต้องการแซง เขาย่อมมีธุระเร่งด่วน ไม่ควรทำให้เขาเสียเวลา”
เมื่อรถเข้าสู่ตัวเมือง การจราจรเรื่อมคับคั่ง เศรษฐีก็ลดความเร็วลง
ทันใดนั้น มีเด็กคนหนึ่ง วิ่งหัวเราะร่าออกมาจากซอย เศรษฐีก็สามารถหยุดรถได้ทัน และเด็กๆ ก็หัวเราะสนุกสนาน วิ่งผ่านหน้ารถไป
แต่เศรษฐีก็ยังไม่ออกรถ และได้แต่มองไปยังปากซอย เหมือนกำลังรออะไรอยู่ สักครู่ก็มีเด็กอีกคนหนึ่ง วิ่งไล่ตามเด็กคนแรกออกมา
อาจารย์จึงถามด้วยความสงสัยว่า ”คุณรู้ได้อย่างไร ว่าจะมีเด็กอีกคนวิ่งออกมาอีก“
เศรษฐีบอก ”เด็กๆ ล้วนเล่นสนุกกัน ถ้ามีคนเดียว เขาจะไม่หัวเราะเริงร่าเช่นนี้“ อาจารย์หัวเราะ พร้อมยกหัวแม่โป้งขึ้น “คุณช่างรอบคอบและมีน้ำใจจริงๆ”
เมื่อมาถึงที่บ้านพัก ทั้งคู่ลงจากรถ เศรษฐีหยิบกุญแจเตรียมเปิดประตูเข้าบ้าน ทันใดนั้นที่ลานหลังบ้าน ก็พลันมีนกบินขึ้นมา 7-8 ตัว
เมื่อเห็นดังนั้น เศรษฐีหยุดอยู่หน้าประตู และกล่าวกับอาจารย์ว่า “รบกวนท่านอาจารย์ รอสักครู่”
อาจารย์รู้สึกแปลกใจ “มีเรื่องอะไรหรือครับ“
”มีคนเข้ามาขโมยเด็ดลิ้นจี่หลังบ้าน ถ้าเราเข้าไปตอนนี้ เขาอาจจะตกใจตกลงมา จะเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น ปล่อยให้พวกเขาเด็ดไปสักครู่ก่อนดีกว่า พวกเรารออยู่ข้างนอกนี้แหละ“ เศรษฐีกล่าวยิ้มๆ
อาจารย์นิ่งเงียบไปครู่ และกล่าวว่า ”คุณส่งผมกลับเถิด บ้านหลังนี้ ไม่มีความจำเป็น ต้องดูฮวงจุ้ยแล้ว“
ครั้งนี้ เศรษฐีกลับเป็นผู้แปลกใจ
”ท่านอาจารย์ทำไมพูดเช่นนี้“
อาจารย์ตอบว่า "สถานที่ที่มีท่านอยู่ ล้วนมีฮวงจุ้ยดีเลิศ" แท้จริงแล้ว …
ความประพฤติของคน คือฮวงจุ้ยและโชคชะตา บุคคลผู้ไม่มีคุณธรรม มีแต่เห็นแก่ตัว เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน แม้จะพากเพียร พยายามไป ก็จะเป็นเพียงความเหนื่อยเปล่า ตัวเอง คือต้นกำเนิดของทุกสิ่ง ความดีงามของตน คือใบเซียมซีที่ดีชั่วนิรันดร์
ปรุงแต่ง จากไลน์เร่ร่อน
8 กรกฎาคม 2567
สีสรรที่บ้านเรา ใช่ป่าเขาแต่ร่มรื่น
สารพรรณไม้ดาดดื่น ให้ร่มรื่นชื่นกายใจ
โชคดีอีกประการ คือสวนฉันนั้นปลอดภัย
ไม่เหมือนอุทยานไทย ขายเช่นแป้งแบ่งนายทุน
9 กรกฎาคม 2567
❣️อหังการ (ตัวกู) ยึดถือตัว เย่อหยิ่งจองหอง ทะนงตน
❣️มมังการ (ของกู) ยึดถือสิ่งของไม่แบ่งปัน
❣️มานานุสัย (ช่างกู) ยึดถือตัวตนด้วยเคยชิน
15 กรกฎาคม 2567
กรรม อันเป็นสมบัติของสัตว์โลก ที่มนุษย์กระทำ ล้วนซับซ้อน ซ้ำซาก จำเจ เวียนวน ไม่สิ้นสุด 3 ประการ
😍 การกระทำใดที่ทำแล้ว ไม่เดือดร้อนภายหลัง การกระทำนั้น คือ กรรมดี เป็นการกระทำที่คนดี ชื่นชมยกย่อง
😍 การกระทำใดที่ทำแล้ว เดือดร้อนภายหลัง การกระทำนั้นคือ กรรมชั่ว เป็นของเผ็ดร้อนก่อทุกข์มาก
😍 การกระทำใดที่ทำแล้ว คลายความทุกข์ การกระทำนั้นคือ กรรมเหนือกรรม
คำสอน สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี
16 กรกฎาคม 2567
อึมครึมมืดครึ้มมา หลายวัน
แม้แสงน้อยยังสรร สีได้
รื่นรมย์ใช่รอวัน รอบกาย คอยเอื้อ
แรงแสงฤๅครึ้มไซร้ สร้างสุข เสมอกัน
18 กรกฎาคม 2567
มีข่าวสัตว์น้ำร้าย ปลาหมอ
“คางดำ” ชื่อพันธุ์ก่อ ภัยหลาย
อึดทนนั่นตัวพ่อ แวดล้อมร้าย ยังรอด
ปากดีนั่นคือร้าย เช่นนัก การเมือง (เลว)
20 กรกฎาคม 2567
บางประเทศ สร้างบ้าน หลบต้นไม้
บางประเทศ ใส่ใจ ตัดเหี้ยน
บางประเทศ รุดหน้า พฤกษาเวียน
บางประเทศ ไม่เพียร เรียนคุณไพร
22 กรกฎาคม 2567
ผู้คนล้วนขวนขวาย มุ่งหน้าไปหาสุขตน
คืนวันผันผ่านพ้น หลากหลายคนมิพบเจอ
ใครเล่าจะพบสุข วิถีทุกข์พาพลั้งเผลอ
ธรรมชาติข้างกายเธอ นั่นล่ะเออสุขใจจริง
25 กรกฎาคม 2567
หนูตัวหนึ่งตกลงไปในถังข้าวสาร แต่สิ่งที่ไม่คาดคิดคือ มันดีใจมาก มันคิดว่ามันโชคดี จึงกินขาวสารนั้นอย่างอิ่มหมีพีมัน กินแล้วก็นอน นอนแล้วก็กิน เป็นอยู่อย่างนี้หลายวัน
วันหนึ่งตอนที่มันกินจนเห็นพื้นของถังข้าวสาร มันฉุกคิด แต่ข้าวสารในถังก็ยั่วยวนเหลือเกิน มันกินจนข้าวสารหมดถัง
ถึงตอนนี้มันถึงรู้ว่า ปีนออกจากถังไม่ได้อีกแล้ว
การใช้ชีวิตของเรา แม้ดูเหมือนปกติธรรมดา แต่แท้ที่จริงมันเต็มไปด้วยกับดักและหลุมพลางที่แยบยล
ภรรยากำลังทำกับข้าวอยู่ในครัว สามีคอยกำกับอยู่ข้างๆ “คนเบาๆ ช้าๆหน่อย ระวังหน่อยสิ ไฟแรงไป เร็วๆ รีบพลิกปลาได้แล้ว ตักออกมาสิ น้ำมันเยอะไปนะ คีบเต้าหู้วางให้ตรงๆ สิ”
ภรรยาสุดทน “นี่คุณ ฉันทำกับข้าวเป็น พูดอยู่ได้”
ผู้เป็นสามีบอก “ที่รัก ผมรู้ว่าคุณทำเป็น”
“ผมเพียงอยากให้คุณรู้ว่า เวลาที่ผมขับรถแล้วคุณคอยกำกับ ให้ผมเบรก ให้ผมเร็ว ให้ผมระวัง ให้ผมแซงนั้น ผมรู้สึกยังไง”
การเรียนรู้ที่จะเข้าใจคนอื่น ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณต้องยืนอยู่ในจุดของฝ่ายตรงข้ามเท่านั้นเอง
วันที่ 1 กระต่ายออกไปตกปลา กลับมาตัวเปล่า ไม่ได้ปลากลับมาเลย
วันที่ 2 กระต่ายไปตกปลาอีก แต่ก็กลับมาตัวเปล่าเช่นเคย
วันที่ 3 เมื่อกระต่ายไปถึงบ่อปลา ปลาตัวหนึ่งก็กระโดดขึ้นจากน้ำ และตะโกนว่า “ถ้านายยังเอาแครอทมาเป็นเหยื่ออีก นายก็ต้องกลับบ้านมือเปล่าอีกแน่”
คุณให้ในสิ่งที่คุณชอบแก่คนอื่น แต่มันไม่ใช่สิ่งที่เขาต้องการ อุทิศให้ในแบบของคุณ ย่อมไม่มีค่า
มีเสืออยู่สองตัว ตัวหนึ่งอยู่ในกรง อีกตัวหนึ่งอยู่ในป่า สั้งสองต่างคิดว่า ที่ที่มันอยู่นั้นไม่น่าอยู่เลย ต่างอิจฉาการดำเนินชีวิตของกันและกัน
วันหนึ่ง พวกมันแลกที่อยู่กัน ต่างก็มีความสุขกับสภาพแวดล้อมใหม่ ต่อมาไม่นาน เสือทั้งสองตัวก็ตายลง ตัวหนึ่งอดตายอยู่ในป่า อีกตัวหนึ่งตายเพราะซึมเศร้าอยู่ในกรง
คนเรา เรามักไม่ถนอมรักษาในสิ่งที่เรามีอยู่ แต่มักอิจฉาในสิ่งที่คนอื่นมี แท้จริงแล้ว สิ่งที่คุณมีนั่นเอง คือสิ่งที่คนอื่นอิจฉา
ปีหนึ่งในมหาวิทยาลัย เด็กสาวหน้าตาไม่สวยมาก เธอสมัครเป็นดาวคณะ ตอนที่เธอเดินออกมาแนะนำตัว ต่อหน้าเพื่อนนิสิต เธอบอกว่า “หากเพื่อนๆ เลือกฉัน อีกสิบปีข้างหน้า เพื่อนๆ สามารถอวดกับลูกๆ และสามีได้ว่า ในปีที่แม่เรียนอยู่ แม่สวยกว่าดาวของคณะ”
เมื่อถึงเวลาเลือกดาวคณะ ปรากฏว่าเธอชนะ
การโน้มน้าวให้คนอื่นยอมรับคุณ ไม่จำเป็นต้องบอกความพิเศษ/โดดเด่นของคุณ แต่ควรทำให้คนอื่นรู้สึกว่า เพราะคุณ พวกเขาจึงมีความพิเศษและโดดเด่นขึ้น
ในงานเลี้ยงแห่งหนึ่ง เบิร์ดนั่งตรงข้ามกับผู้หญิงคนหนึ่ง เขาพูดตามมารยาทว่า “คุณสวยครับ”
ผู้หญิงคนนั้นกลับไม่รับน้ำใจ ไม่แม้แต่จะกล่าวคำว่าขอบคุณ เธอพูดออกไปอย่างยโสว่า “เสียใจ ฉันไม่ชมว่าคุณหล่อเหมือนที่คุณชมว่าฉันหรอกนะ”
เบิร์ดจึงพูดออกไปอย่างสุภาพว่า “ไม่เป็นไรครับ แต่คุณควรฝืนใจพูดโกหกเหมือนผมบ้างก็ดีนะครับ”
เมื่อคุณป้วนน้ำลายขึ้นฟ้า คนที่เปื้อนอาจเป็นตัวคุณเอง
28 กรกฎาคม 2567
โลกล้วนดั่งละคร หลากคนสอนหลายเรื่องราว
ยลยินฟังความเล่า อันคลุกเคล้าระคนกัน
ปรุงแต่งด้วยหลากสี หวังให้มีความผูกพัน
สุขทุกข์ที่เขาปัน เราเท่านั้นที่สรรดู
6 สิงหาคม 2567
กาพย์ยานี 11 ชมละครสุขทุกข์
รถกผู้มีคุณ ผู้นำหนุนสังคมไทย
ผู้วางรากฐานให้ เยาวชนไทยได้พากเพียร
เอเชียอาคเนย์ไซร้ ชื่อกว้างไกลใช้อ่านเขียน
ธงชัยการงานเซียน ที่อยู่มีท่านนี้ผดุง
13 สิงหาคม 2567
เหล่ามนุษย์เรียนรู้ด้วย ปัญญา
เก่งกาจเราเรียกว่า “ฉลาด” รู้
เหล่าสัตว์ที่ล้ำหน้า “แสนรู้” ใช้เรียก
เครื่องจักรก็เรียนรู้ เราเรียก “ปัญญาประดิษฐ์”
ในสัตว์ เรียก แสนรู้
ในคน เรียก ฉลาด
ในคอมพิวเตอร์ เรียก ปัญญาประดิษฐ์ (แสนรู้)
18 สิงหาคม 2567
ต่างรุ่นหลากช่วงวัย Generation
หลากด้วยสังคมสรร ก่อร่าง
สารสื่อต้องใจกัน เข้าใจ Gen.ไว้
ยึดตนเป็นที่ตั้ง ไม่เข้า ใจกัน
เมื่อพระอาจารย์ปู่ (Baby boomer) ต้องสอนสามเณรน้อย รุ่น Alpha
30 สิงหาคม 2567
ขอบคุณคลิปจากทรูปลูกปัญญา
วัยเด็กล้มคลุกคลาน เจริญวัย
หนุ่มสาวเมื่อล้มไป ไฝ่ลุก
เจตนาหวังปลุกใจ เริ่มใหม่ ใจสู้
แก่แล้วล้มไม่สนุก อาจรุก นอนยาว
ชีวิตคนเรา จะล้มกี่ครั้งเมื่อใดก็ได้ แต่ไม่ใช่ตอนแก่
22 สิงหาคม 2567
ฝนพร่ำพรั่งพรูมา ค่อนคืน
เช้านี้ธรรมชาติฟื้น สดใส
พืชพันธุ์หมู่ไม้ตื่น พริ้วไหว บรรเจิด
ทุกข์สุขเช่นนั้นไซร้ หวนคืน เวียนวน
28 สิงหาคม 2567
หวังเงินควรหมายมุ่ง การงาน
เก็บออมพร้อมขยันการณ์ ช่วยได้
หวังผลดลบันดาลฝัน งมงาย ไม่เอื้อ
อบายมุขพาพ่าย ลำบาก ยาวนาน
30 สิงหาคม 2567
กาลก่อนต้องเข่นฆ่า จุดหมาย ดำรง
ต่อมาพัฒนาไป ร่วมมิตร
จริยาส่งเสริมไกล win-win สนอง
บัดนี้หมายให้ขิต กลางกาล ศิวิไลซ์
1 กันยายน 2567
เมตตาค้ำจุนโลก รู้กัน
คน-สัตว์-พืชต่างกัน ฤๅไฉน
เมตตาสู่กรุณานั่น ล้วนสรรค์ สรรพสิ่ง
ฝึกฝนอบรมไว้ ใส่ใจ บำรุง
5 กันยายน 2567
สถานนี้มีเรื่องราว หลากเรื่องเล่ากล่าวยาวนาน
กึ่งกาลศตวรรษผ่าน พัฒนาไกลในเวลา
ที่นี่คือผู้สร้าง ประกอบร่างฉันเรื่อยมา
มั่นคงด้วยมรรคา ชีวิตนี้มิมีเลือน
กาพย์ยานี11 ที่นี่มีคุณ
เย็นกายใต้ร่มไม้ เย็นใจใช่ร่มเงา
14 กันยายน 2567
พฤกษาพาสู่ไพร มาเยือน
ล้ำรุกบ้านเคียงเรือน ให้หวน
ตัดแต่งมิต้องเตือน ให้เสีย เสื่อมชื่อ
ดำเนินการครบถ้วน ได้ร่ม สวยงาม
23 กันยายน 2567
เช้านี้มีแมวมา ดูวางท่าอย่างที่เคย
ไม่สนเสียงเอื้อนเอ่ย ถึงใครมิตรคิดไมตรี
เจ้ามาเป็นประจำ ย่องดื่มน้ำถึงถิ่นที่
ควรฤๅตัดไมตรี มิให้รัดสัมผัสกาย
24 กันยายน 2567
ฝนพรำพรั่งพรูมา แลท้องฟ้าครางคะนอง
มืดครึ้มกระหึ่มครอง ดุจเทวาบนฟ้าระเริง
เมื่อฝนอุตส่าห์มา ดูทีท่าต้องบันเทิง
เล่นน้ำให้รื่นเริง ประโยชน์ได้ด้วยเทคโนฯ
26 กันยายน 2567
เสียดายชีวิตน้อย เด็กผู้ด้อยอ่อนเดียงสา
เสียดายผู้นำพา คุณครูจบพบเภทภัย
เสียดายคนใช้งบ ที่มุ่งลบจบจนได้
นี่ฤๅ คือผู้ใหญ่ ที่เข้าใจทุนพัฒนา
เสียดายกรมขนส่ง ผู้ดำรงในศาสตรา
สมควรถูกด้อยค่า ถูกตีตราให้อ่อนใจ
เสียดายงบประมาณ ที่จัดสรรศึกษาไทย
แม้สูงมากเกินใคร กองอยู่ในเงินเดือนครู
ปัญหาในรัฐไทย จะว่าไปก็พันตู
หน่วยงานรั้วสูงอยู่ เกินบรรจบพบคุยกัน
คงยากลงมาคุย บูรณาการคุ้ยลุยสร้างสรรค์
ลุ่มหลงและเริงกัน หอคอยนั่นใช้นั่งดู
ทุ่มทุนกับเด็กเถิด วันหน้าเกิดบรรเจิดหรู
ฝากพ่อแม่และครู ต่อหน้าท่านนั่นอนาคตไทย
3 ตุลาคม 2567
ปรุงแต่งภาพจากต้นฉบับของ Thai PBS และไทยรัฐ
ขอเชิดชูคุณครู ในโอกาสวันครูโลก (World Teacher’s Day) 5 ตุลาคม
ขอเชิดชูบุคคลสำคัญ ผู้ขับเคลื่อนการศึกษาให้ก้าวหน้า
ขอให้คุณครูทั่วโลก ตระหนักถึงความรับผิดชอบที่มีต่อสังคม ปลูกฝังจิตสำนึกที่ดีในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์
เราภูมิใจที่ได้เป็นครู
5 ตุลาคม 2567 (วันครูโลก)
คู่ดีได้ยลด้วย กาย-ใจ
เสริมเพิ่มเติมแต่งได้ หลากสนอง
ครองกาย ฤๅ สมให้ ดังหมาย ไฝ่มุ่ง
ครองใจไซร้สิ่งป้อง สมหวัง ยั่งยืน
7 ตุลาคม 2567
โคลนมาเมื่อป่าหมด พารันทดทั่วทั้งเมือง ซากไม้หลายร้อยเคือง พาถล่มจมบาดาล
บทนี้เรียนไม่ยาก ลูกหลานหลากใช้ไขขาน บางหมู่ราชการ “บทบาท” ทิ้งขึ้นหิ้งมอง
☸️ บทบาท = พฤติกรรมประจำตำแหน่ง ที่ผู้อื่นคาดหวัง
8 ตุลาคม 2567
เมื่อการล้างเป็นเหตุให้เมื่อยล้า การเช็ดด้วยผ้าหมาดเป็นประจำ ก็เป็นทางออก ช่วยให้พาหนะดูสะอาดตลอดเวลา ได้ชำระสิ่งสกปรก ได้ออกกำลัง และได้สร้างวินัย
เมื่อล้าง สร้างทุกข์ ก็เช็ด เพื่อล้างทุกข์
18 ตุลาคม 2567
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต | อะระหะโต | สัมมาสัมพุทธัสสะ
ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น | ผู้เป็นอรหันต์ไกลจากกิเลส | ผู้ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง
ทุกการกระทำล้วน มีนัย
สารสื่อจิตผ่านกาย ได้เห็น
รับสารสังวรไซร้ แปลความ ให้แจ้ง
นั่นจึงงดงามเด่น ปัญญา พาเจริญ
23 ตุลาคม 2567
สิ่งใหม่รอบกายล้วน ผันแปร
สรรพสิ่งใช่มั่นแท้ เพียงเจ้า
มิสนสิ่งใหม่แค่ ยึดตน ตรึงมั่น
เยี่ยงนี้พาสู่เขลา เปรียบน้ำ เต็มแก้ว
30 ตุลาคม 2567
เทศกาลล้วนมีนัย ให้ใส่ใจในมรรคา
มิวายดาษดื่นมา พึงแสวงหาสัจจะจริง
เจตนามองให้ออก โบราณบอกถ้วนทุกสิ่ง
ครั้นพบจบความจริง อย่าเฉยนิ่งช่วยดำรง
31 ตุลาคม 2567 (วันฮาโลวีน)
คนสร้างมาตรฐานการศึกษาประเทศเรา เขามีทัศนคติเกี่ยวกับตำแหน่งทางวิศวกรรมว่า 'ช่างไม่ใช่วิศวกร' แต่สากลใช้คำเดียวเดียวว่า 'Engineer'
ช่าง ต้องมือดำ-ทำเป็น
วิศวกร ต้องสวมสูทผูกเน็คไท มือใสเยี่ยงตูดเด็ก
1 พฤศจิกายน 2567
ประเพณีมีสืบสาน สวนข้างบ้านคือหมุดหมาย
คุณหลานรังสรรค์ให้ ด้วยมวลไม้ในสวนมี
บรรจงลงประดิษฐ์ ผูกนิมิตกระทงนี้
ขอคุณงามความดี ปรากฏเด่นเช่นแสงเรือง
15 พฤศจิกายน 15 ค่ำ 2567
จิตคิดร้ายมองสิ่งใดได้ภาพลบ
จิตสงบเห็นสิ่งใดได้คำสอน
จิตสูงส่งมองสิ่งใดใฝ่อมร
จิตต่ำร้อนเห็นลำเค็ญไม่เป็นดี
22 พฤศจิกายน 2567
สว. คือสูงวัย เตือนจิตใจได้สังวรณ์
ผ่านสุขทุกข์หนาวร้อน กาลครั้งก่อนสอนใจตน
เรียนรู้เรื่องเวรกรรม บุญหนุนนำซ้ำเวียนวน
ลาภยศเคยยินยล ให้หมองหม่นพ้นเลือนไป
หัวโขนคนเหลียวแล ถึงคราแก่แคร์ไปไย
เลิกคิดลำบากกาย ลู่ลี้ใจไปทางธรรม
หลักเกณฑ์สู่หลักกู เคยคุ้นหูหวนมาขำ
แลย้ำคิดย้ำทำ ด้วยความจำเริ่มไกลตน
สลัดทิ้งช่างหัวมัน สิ่งละอันสรรสับสน
วันใหม่ไม่อับจน เมื่อหลุดพ้นวังวนเดิม
20 พฤศจิกายน 2567
Garden คนไทยเรียก ว่าสวน
คำว่าคนทำสวน Gardener
ตัดแต่งสรรดินพรวน Gardening ให้งาม
ฉันทำสวนนะเธอ I do gardening
1 ธันวาคม 2567
กุหลาบถึงคราบาน ย่อมสวย
มิมีใครใดช่วย สวยได้
จิ้งจกไม่งามด้วย ต้องปรุง ตนแต่ง
เฉกเช่นมนุษย์ไซร้ ปรุงตน จึงงาม
6 ธันวาคม 2567
พอใจสิ่งที่มี เป็นคุณ
รอบกายล้วนเกื้อกูล พร้อมเอื้อ
ขอเพียงใจอบอุ่น น้อมนำ เห็นค่า
เท่านี้ก็เหลือเฟือ มีธรรม ประดับตน
สิ่งสบายใจมีอยู่รอบตัวเรา ขอเพียงมองให้ได้เห็น ฟังสิ่งที่ได้ยิน สิ่งดีงามย่อมปรากฏเป็นบุญแก่เรา
8 ธันวาคม 2567
นกกินปลีอกเหลือง พากันบินมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วให้ฉงน เป็นความบันเทิงแต่เช้า
รอบตัวคงดีแน่ ถ้าเรา-เขาต่าง ‘เข้าใจกัน’ แม้จะต่างภาษา หลากสปีชีส์เข้าใจกัน คือเข้าใจเจตนากันและกันในแบบ ‘ใจเขา-ใจเรา‘ นั่นเอง
10 ธันวาคม 2567
ยึดมั่นใน 10 ข้อนี้ได้ จะไม่ทำให้หลงผิด ที่สำคัญจะทำให้รู้ว่า อะไรจริงแท้ อะไรแฝงกายมา
11 ธันวาคม 2567
ชาวพุทธไทย ใจกาย ต้องได้พึ่ง
มั่นด้วยตรึง สุขภาพใจ ให้สุขสันต์
จิต-กาย-ใจ ควรเพลิน ระเริงวัน
ฤๅยึดมั่น อดีตตน จนเป็นภัย
ฝึก-จิต-ใจ ให้เป็น เช่นพี่น้อง
กาลทั้งผอง เด่นอยู่ คู่นภาไฉน
ถึงคราหยุด พึงนั่งนิ่ง พิงกาย-ใจ
ต้องสรรให้ จิตดวงนี้ มีที่วาง
☸️ วางจิตใจได้ ย่อมพากายสุข
13 ธันวาคม 2567
✡️ ตำหนิตน คือบัณฑิต ตำหนิผู้อื่น คือคนพาลคุณโง่คนพาล
✡️ ไม่ให้ทานเพราะกลัวจน แต่บัณฑิตชนกลัวจน จึงให้ทาน [พระอาจารย์สินทรัพย์]
☯️ โลกหมุนไปตามความเป็นจริง ไม่ใช่ตามความต้องการของเรา อะไรที่ไม่สามารถควบคุมได้ก็ต้องยอมรับ (ยอมรับว่าควบคุมบังคับไม่ได้)
☯️ พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้เราเปลี่ยนแปลงโลก แต่สอนให้ยอมรับความเป็นจริงของโลก [พระอาจารย์ตะวัน]
14 ธันวาคม 2567
ตอนที่ 723 มองเห็นเป็นปัญญา
มองแต่ไม่เห็น อาจเป็นปัญหา
มองให้ได้เห็น ย่อมเป็นปัญญา
มองให้เป็นคุณค่า คือเห็นเจตนาผู้คน
16 ธันวาคม 2567