บทความ เกี่ยวกับครื่องดื่ม

4 ความเข้าใจผิดของคอเบียร์

ใครๆ ล้วนดื่มเป็น แต่พบว่า 4 ข้อพื้นฐาน ที่ผู้ชอบดื่มเบียร์ปฏิบัติผิด ดังนี้


1. ดื่มเบียร์ด้วยแก้วเบียร์ที่แช่เย็นมาก

แต่มันเป็นตัวสร้างฟองมหาศาล นี่คือความเชื่อผิดข้อแรกที่ยิ่งใหญ่ และเกือบทุกคนมักจะทำกัน ด้วยการถามหาแก้วเบียร์เย็นแบบน้ำแข็งเกาะ แก้วเบียร์ที่เย็นจัด จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของอนุภาค หรือปฏิกิริยา Nucleation และผลที่ตามมาคือฟอง ฟองมหาศาล ซึ่งทำลายรสชาติและกลิ่นหอมของเบียร์ให้หมดไป


2. คุณชอบดื่มเบียร์ที่แช่เย็นจัด

แต่มันทำลายรสชาติเบียร์หมดสิ้น เบียร์ที่รสชาติดีที่สุดไม่ใช่เบียร์ที่แช่เย็นจัด เพราะนั่นทำลายรสชาติและกลิ่นหอมของเบียร์อย่างมาก จริงๆ แล้วการเสริฟเบียร์แต่ละประเภทจะมีอุณหภูมิที่ถูกต้องในการเสริฟต่างกัน แต่โดยหลักแล้ว เบียร์ควรจะถูกเสริฟที่อุณหภูมิต่ำกว่าอุณหภูมิห้องนิดหน่อย แต่สำหรับประเทศอากาศร้อนอย่างบ้านเรา จะเสริฟที่อุณหภูมิต่ำลงไปอีกนิดก็ยังได้


3. ห้ามให้เบียร์โดนแสง มันจะกลายเป็นเบียร์เหม็นสุดยอด

ภาษาวิชาการ เรียกกรณีนี้ว่า Skunked Beer ใช้เรียกเบียร์ที่โดนแสงเข้าถึง อย่างเช่นในแก้วใสเป็นต้น จึงเป็นเหตุผลที่ขวดเบียร์ทุกยี่ห้อเป็นสีน้ำตาลเข้ม แบบไม่ให้แสงส่องผ่านได้ Skunked Beer สามารถเกิดขึ้นได้ภายในไม่กี่นาทีที่เบียร์ปะทะแสง ดังนั้น หากคุณไม่อยากดื่มเบียร์เหม็น แนะนำให้เลือกเบียร์ที่ไม่บรรจุในขวดใส รวมถึงการเก็บเบียร์ให้พ้นจากแสง เช่นกัน


4. เบียร์ไม่ใช่ไวน์ ยิ่งเก็บไว้นานจะยิ่งไม่อร่อย

บางคนอาจซื้อเบียร์เจ๋งๆ หรือเบียร์แปลกของฝากจากต่างประเทศ ทำให้อยากเก็บไว้ให้นานๆ แต่เบียร์ ไม่ใช่ไวน์ การหมักเบียร์มี hop เป็นส่วนผสม โดยมันจะสร้างกลิ่นหอมที่แตกต่างกัน แต่อายุของ hop สั้นนัก ยิ่งเก็บไว้นาน กลิ่นจะจืดจางลงจนหมดไปในที่สุด คำแนะนำคือ มีเบียร์อะไรเด็ด ให้เปิดดื่มให้หมดตอนที่ยังรสชาติดีอยู่


เรียบเรียงข้อมูลจาก : THRILLIST

ประโยชน์กาแฟดำ

ดื่มกาแฟไม่ใส่น้ำตาล ไม่ใส่ครีมเทียม มีประโยชน์ 11 ประการ

  1. ช่วยป้องกันโรคไวรัสตับอักเสบ B

  2. ช่วยป้องกันโรคหอบ โรคนี้คือ อาการภูมิแพ้ ชนิดหนึ่ง โดยทั่วไป เมื่อมีประสาทสำรองไม่ถูกกระตุ้น จะไม่มีอาการหอบเกิดขึ้นง่ายๆ แต่ถ้าหากประสาทสัมผัสสำรองถูกกระตุ้น จะเกิดอาการหอบทันที คาเฟอีนในกาแฟ จะระงับการตึงเครียดของประสาทสัมผัสสำรอง ลดการเกิดโรคหอบ

  3. ช่วยลดการเกิดโรคตับจากสุรา ตามที่นักวิชาการสำรวจแล้วพบว่า กาแฟช่วยลดผลร้ายที่จะมีต่อตับได้อย่างมีนัยสำคัญ

  4. ช่วยป้องกันมะเร็งตับ มะเร็งลำไส้ และมะเร็งในช่องปาก จากผลการทดลองจริง พบว่ากาแฟมีประสิทธิภาพ ป้องกันโรคขั้นต้น โดยเฉพาะในคาเฟอีน มีกรดอะซิติก ที่ช่วยป้องกันโรคต่างๆ ดังกล่าวได้

  5. ช่วยขับไล่ความชรา อ็อกซิเจนเป็นสารที่ร่างกายต้องการมาก แต่หากมีออกซิเจนมากไป ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งสูงและแก่เร็ว โดยเฉพาะกาแฟที่เข้มข้น จะทำให้ออกไซด์แตกตัว ลดการเกิดมะเร็งได้ กระตุ้นการเผาผลาญอาหารในร่างกายได้ดี

  6. ช่วยลดอัตราคอเลสเตอรอล ป้องกันโรคหัวใจ ในกาแฟมีนิโคติน แต่คนละชนิดกับในบุหรี่ แต่เป็นวิตามิน B รวมชนิดหนึ่งที่ร่างกายต้องการ ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด จึงป้องกันโรคหัวใจและหลอดเลือดแข็งตัวได้

  7. ช่วยละลายไขมัน กาแฟที่ดื่มหลังอิ่มอาหาร ช่วยให้ไขมันแตกตัว และให้พลังงานทดแทน จึงช่วยลดความอ้วนได้

  8. กาแฟช่วยเพิ่มไขมันชนิดดีให้ร่างกาย ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัว ตามผลการวิจัยพบว่า คนที่ดื่มกาแฟบ่อย จะมีไขมันชนิด HDL เพิ่มขึ้น ซึ่งไขมันชนิดนี้ จะขับไล่คอเลสเตอรอลออกไป ป้องกันหลอดเลือดแข็งตัวได้

  9. ช่วยแก้ปวดศีรษะ กาแฟมีส่วนผสมของคาเฟอีน ที่ขยายหลอดเลือด ระงับอาการปวดได้เช่นเดียวกับยาแก้ปวด และยังช่วยขับปัสสาวะ ละลายไขมันในเส้นเลือด และช่วยบรรเทาอาการปวดศีรษะ เนื่องจากการเมาสุราได้

  10. ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดในสมองและสมรรถภาพสมอง ผลการวิจัยสรุปว่า ความหอมของกาแฟช่วยกระตุ้นสมองให้ทำงานได้เร็วขึ้น และมีสมาธิ ประสิทธิภาพการทำงานดีขึ้น เนื่องจากกลิ่นของกาแฟ ทำให้เลือดไหลเวียนในสมองเพิ่มขึ้น

  11. ดื่มกาแฟเล็กน้อยทำให้น้ำย่อยในกระเพาะหลั่งดีขึ้น ไขมันแตกตัว การดื่มกาแฟเล็กน้อยหลังทานอาหารเสร็จ คาเฟอีนในกาแฟจะมีประโยชน์ต่อกระเพาะโดยตรง น้ำย่อยที่กระเพาะและตับอ่อนจะเพิ่มขึ้น ไขมันถูกเผาผลาญได้ดีมากขึ้น