อย่าหาเรื่องไปตรวจภูมิคุ้มกันโควิดเล่น

อย่าหาเรื่องไปตรวจภูมิคุ้มกันโควิดเล่น มันจะพาชีวิตไปสู่ความยุ่งยากโดยไม่จำเป็น


เรียน คุณหมอสันต์


หนูฉีดวัคซีนโควิดครบแล้ว ฉีดแบบซิก้า คือเข็มแรก ซิโนแวค เข็มสอง แอสตร้า หลังจากนั้นสามเดือนหนูไปซื้อแพคเก็จตรวจภูมิคุ้มกันโควิดที่โรงพยาบาล …………… ราคา 1200 บาท พบว่าไม่มีภูมิ


หนูควรจะฉีดวัคซีนเข็มที่สามแบบบุคลากรทางการแพทย์ไหม และควรจะฉีดเมื่อใดคะ


ตอบครับ


ก่อนที่จะตอบคำถาม ขอพูดเหมาโหลสำหรับแฟนบล็อกหมอสันต์ทุกท่านว่า


“อย่า” หาเรื่องไปตรวจภูมิคุ้มกันโรคโควิด (antibody for spike protein ในรูปของ IgG และหรือ IgM) หลังการฉีดวัคซีน


ไม่ว่าจะหลังการฉีดเข็มแรกหรือเข็มสองหรือเข็มสาม ไม่ว่าจะหลังฉีดวัคซีนอะไร และไม่ว่าจะหลังการฉีดแล้วกี่วัน


เพราะ

ประการที่ 1.

การตรวจภูมิคุ้มกันโรคโควิดหลังการฉีดวัคซีน ไม่ใช่มาตรฐานการรักษาโรคโควิดของวงการแพทย์ทั่วโลกในปัจจุบัน


เพราะวงการแพทย์ยังไม่รู้ว่าการตรวจพบหรือไม่พบแอนติบอดี้ระดับเท่าได มีความสัมพันธ์กับอัตราการติดเชื้อและอัตราตายหลังการติดเชื้อแค่ไหน


จึงเป็นการตรวจที่ใช้เฉพาะในงานวิจัยเท่านั้น ส่วนในการรักษาโรคข้อมูลที่ตรวจมาได้ไม่มีประโยชน์อะไรเลย เอาไปตัดสินใจอะไรไม่ได้เลย


อย่าหลงคารมผู้เสนอขายสินค้าซึ่งปรารถนาแค่จะขายลูกเดียว


ประการที่ 2.

น้ำยามาตรฐาน (reference agent) ที่จะใช้ในการตรวจภูมิคุ้มกันโควิดในโลกนี้ยังไม่มี


WHO ยังไม่เคยออกมาตรฐานน้ำยาตรวจภูมิคุ้มกันโควิด หน่วยมาตรฐานที่จะวัดภูมิคุ้มกันที่ยอมรับกันทั่วไปก็ยังไม่มี


ถ้าคุณอ่านใบรายงานผลจะรายงานหน่วยนับเป็น AU ซึ่งย่อมาจาก Arbitrary Unit ฟังดูหรูเชียว แต่มันแปลว่า “หน่วยมั่ว” คือของใครของมัน มั่วกันขึ้นมาเอง


บางแห่งก็รายงานผลเป็นเปอร์เซ็นต์ บางแห่งรายงานผลเป็นสัดส่วนความเจือจางของตัวทำละลายที่ยังตรวจพบภูมิได้ เช่น 1 ต่อ 20, 1 ต่อ 40, 1 ต่อ 80 เป็นต้น


บางแห่งใช้วิธีตรวจด้วยการดูโหงวเฮ้ง เรียกว่าแบบ rapid test โดยหยดเลือดแหมะลงบนกระดาษตรวจแล้วดูสีเอาแล้วอ่านเอาจากสีว่ามีภูมิหรือไม่มี


ทั้งหมดนี้ผลตรวจแปลความหมายอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น


ตรวจพบหรือไม่พบก็เชื่อถือไม่ได้


ตรวจพบระดับเท่านั้นเท่านี้จะติดโรคน้อยลงหรือตายน้อยลงแค่ไหนก็แปลผลไม่ได้


ต้องฉีดวัคซีนซ้ำหรือเปล่าก็ไม่รู้ แล้วจะตรวจไปทำพรื้อละครับ


ประการที่ 3.

ผมขอใช้เวลาอธิบายหลักวิธีสร้างภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีนของร่างกายสักหน่อยนะ


มันสำคัญที่ท่านต้องเข้าใจหลักพื้นฐานก่อนเที่ยวไปตรวจนั่นตรวจนี้ คือ


การฉีดวัคซีนนี้เป็นการกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันในส่วนที่เรียกว่าภูมิคุ้มกันแบบเจาะจง (adaptive immunity) ระบบนี้ทำงานเป็นสามส่วนใหญ่ๆคือ


(1) ระบบจดจำหน้าตาเชื้อโรค (memory cell)

(2) ระบบสร้างเม็ดเลือดขาวเพื่อเจาะจงทำลายเชื้อโรค (Cell Mediated Immune Response – CMIR)

(3) ระบบสร้างโมเลกุลภูมิคุ้มไปทำลายเชื้อโรค (Humoral Immune Response – HIR)


ทั้งสามระบบย่อยนี้ ทำงานประสานกันทันทีจนเชื้อโรคหมด พอเชื้อโรคหมดแล้วส่วนการสร้างเม็ดเลือดขาวและการสร้างภูมิคุ้มกันจะหยุดทำงาน แต่ส่วนระบบจดจำจะทำงานต่อเนื่องไม่มีหยุด


ถ้าเราเจาะเลือดตรวจดูภูมิคุ้มกันในจังหวะนี้จะพบว่ามีภูมิต่ำหรือไม่มีภูมิเลย แต่ไม่ได้หมายความว่าวัคซีนที่ฉีดไปนั้นจะไม่คุ้มกันการติดเชื้อหรือจะไม่ลดการตาย


เพราะพอเราไปติดเชื้อจริงเข้าตูม…ม ระบบจดจำก็จะแจ้งผลิตทั้งเม็ดเลือดขาวและภูมิคุ้มกันขึ้นมาทันที แบบว่าสะเป๊คมีอยู่แล้ว ผลิตได้ทันทีตามต้องการ นี่เป็นหลักพื้นฐานในการทำงานของวัคซีนที่วงการแพทย์ทราบดี


งานวิจัยหลักฐานทำนองนี้มีชัดมาก ชัดที่สุดในกรณีวัคซีนโรคตับอักเสบไวรัสบี. หลังฉีดวัคซีนครบ 3 เข็มแล้ว ตรวจพบว่าไม่มีภูมิ แต่พอไปสัมผัสเชื้อจริงก็เกิดภูมิคุ้มกันสูงขึ้นพรวดทันที่และพอที่จะป้องกันการติดเชื้อได้


ยกตัวอย่างในเรื่องโควิดนี้ก็ได้


พอเราฉีดวัคซีนซิโนแวคไปสองเข็มแล้วงานวิจัยตรวจภูมิพบว่า ไม่มีภูมิหรือมีภูมิต่ำ แต่พอฉีดซิโนแวคเข็มที่สามก็พบว่ามีภูมิสูงขึ้นพรวดพราด (สูงมากกว่าฉีดเข็มที่สามด้วยวัคซีนไฟเซอร์เสียอีก)


ประเด็นที่ผมจะชี้ไม่ใช้ประเด็นวัคซีนเทพวัคซีนมารใครดีกว่ากัน


แต่ผมจะชี้ให้เข้าใจกลไกการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันหลังได้วัคซีนว่า เมื่อจำเชื้อโรคได้แล้ว และทำลายเชื้อโรคหมดแล้ว ภูมิก็จะตก นี่เป็นปกติธรรมดา


โดยที่วงการแพทย์ยังไม่รู้ก็คือยังไม่รู้ว่า วัคซีนโควิด19 ตัวไหนใช้เวลากี่วันภูมิจึงจะตก การไปตรวจแบบสุ่มๆแล้วพบว่าภูมิตกแล้วร้องกระต๊าก..กระต๊าก.. นี่ไม่ใช่เป็นปกติธรรมดา แต่เป็นความบ้องตื้น หรือมองในแง่ไม่ดีก็เป็นการแกล้งบ้องตื้นเพื่อขายสินค้า


ซึ่งหากมีเพื่อนแพทย์ทำอย่างหลังนี้เสียเองผมก็ได้แต่เสียใจ


กล่าวโดยสรุป การตรวจภูมิคุ้มกันโควิด19 ควรเป็นเรื่องของการทำวิจัยเท่านั้น ประชาชนทั่วไปไม่ควรไปยุ่งด้วยเพราะจะเอาผลมาเปลี่ยนแผนจัดการโรคของตัวเองไม่ได้


หากคิดว่า จะตรวจเพื่อความสบายใจแต่บางกรณีอย่างเช่นของคุณนี้ผลตรวจออกมาแล้วกลับกลายเป็นไม่สบายใจยิ่งขึ้น คือเสียมากกว่าได้


นพ.สันต์ ใจยอดศิลป์

August 16, 2021

คลิปวิดีโอ เกี่ยวกับ COVID-19

ขอขอบคุณผู้สร้างสรรค์คลิปวิดีโอเหล่านี้ จากสังคมออนไลน์

  • เสียงจากผู้เคยติดเชื้อโควิด
  • การ์ตูนรณรงค์ป้องกันโควิด
  • อยู่บ้านอย่างไรในชีวิตวิถีใหม่
  • แนะนำการป้องกันโควิด
  • ป้องกันตัวเอง
  • ถ้าวิกฤติจบช้า