10 อันดับ มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย มีการประกาศผลการจัด อันดับมหาวิทยาลัยโลก ของ Us news โดยการจัดอันดับครั้งนี้สำรวจครอบคลุมมหาวิทยาลัยชั้นนำใน 49 ประเทศทั่วโลกและใช้ฐานข้อมูลอ้างอิง จากบริษัทวิเคราะห์งานวิจัย ทอมสัน รอยเตอร์ อินไซท์ ที่ให้น้ำหนักการจัดอันดับ จากงานวิจัยที่ได้รับการตีพิมพ์ ชื่อเสียงและฐานข้อมูลอ้างอิงชั้นสูงของสถาบันต่าง ๆ โดยปีนี้ Harvard Universit สามารถคว้าอับดับที่ 1 ด้วยคะแนนเต็ม 100 คะแนน ด้านอันดับที่ 2 ตกเป็นของ Massachusetts Institute of Technology อันดับที่ 3 University of California ส่วน Stanford University เข้าวินในอันดับที่ 4 ปิดท้ายด้วย University of Oxfordอันดับที่ 5 อันดับมหาวิทยาลัยแถวหน้าของเอเชีย ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยโตเกียว มหาวิทยาลัยอันดับที่ 1 ของเอเชีย มหาวิทยาลัยโตเกียว หรือย่อว่า โทได ตั้งอยู่ที่เมืองโตเกียว มีพื้นที่แยกเป็น 5 วิทยาเขต ใน ฮงโง โคมะบะ คะชิวะ ชิโระงะเนะ และ นะกะโนะ และได้ชื่อว่าเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ ที่มีเกียรติมากที่สุดในญี่ปุ่น ทั้งยังเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกมหาวิทยาลัยโตเกียว ประกอบด้วย 10 คณะ มีนักศึกษาประมาณ 30,000 คน ในจำนวนนี้ มีนักศึกษาต่างชาติ ประมาณ 2,100 คน ปัจจุบันมีหลักสูตรครอบคลุมสาขาวิทยาการเกือบทั้งหมด ที่มีชื่อเสียงมากเป็นพิเศษคือ กฎหมาย รัฐศาสตร์ วรรณกรรม เศรษฐศาสตร์ แพทยศาสตร์และ วิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยแห่งนี้ผลิตนักการเมืองและข้าราชการระดับสูงของญี่ปุ่นจำนวนมาก อัตราส่วนของรัฐมนตรีที่เป็นศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยโตเกียวยังคงสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยโตเกียว มีการเรียนการสอนเป็นที่ยอมรับ และมีอัตราการแข่งขันในการเข้าศึกษาสูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น มหาวิทยาลัยโตเกียว มีมหาวิทยาลัยคู่แข่ง 6 มหาวิทยาลัย เช่น มหาวิทยาลัยเคโอ ที่ก่อตั้งก่อนช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง มหาวิทยาลัยฮิโตะสึบาชิ ที่เป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมากในหมู่คนญี่ปุ่น และเปิดสอนเฉพาะวิชาด้านสังคมศาสตร์ หรือมหาวิทยาลัยเกียวโต ที่ผลิตนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลเป็นจำนวนมาก หนึ่งในศิษย์เก่าเจ้าของรางวัลโนเบลของมหาวิทยาลัยโตเกียวคือ ศาสตราจารย์ คิคุจิ ไดโรกุ อธิการบดีมหาวิทยาลัยโตเกียวอิมพิเรียล ในด้านกีฬา ทีมเบสบอลมหาวิทยาลัยโตเกียว ประสบความสำเร็จมากที่สุดทีมหนึ่งในระดับมหาวิทยาลัยของกรุงโตเกียว ด้านมหาวิทยาลัยไทย ที่คว้าอันดับสูงที่สุดได้แก่มหาวิทยาลัยมหิดล อันดับที่ 74 ขอขอบคุณข้อมูลจาก http://www.sanook.com http://www.usnews.com/education/, http://th.wikipedia.org/wiki/ |
รู้ไปก็เท่านั้น > ความเชื่อ-สถิติ >